JOB LIGHTING สาระอื่น ๆ วิธีการเลือกซื้อโคมไฟดาวน์ไลท์

วิธีการเลือกซื้อโคมไฟดาวน์ไลท์

วิธีการเลือกซื้อโคมไฟดาวน์ไลท์

หลายๆท่านคงเลือกโคมไฟ ดาวน์ไลท์ ให้เหมาะสมกับห้องหรือบ้านของคุณเองไม่ถูก เนื่องจากมีแบบให้เลือกหลากหลาย และราคาสูง – ต่ำ หลากหลายคุณภาพ วันนี้เรามาลองศึกษาวิธีการเลือกดาวน์ไลท์ให้เหมาะสมดูนะคะ

1. ให้เลือกโดยดูที่วิธีใส่หลอดไฟ

1.1.1 แบบใส่หลอดแนวตั้ง เป็นแบบที่นิยมออกแบบสำหรับใส่หลอดไส้,หลอดตะเกียบ และหลอด LED Bulb ที่ประหยัดค่าไฟและอายุการใช้งานยืนยาว
1.1.2 แบบใส่หลอดแนวนอน(เสียบข้าง) เหมาะกับหลอดตะเกียบ มีจุดเด่นที่โคมมีความลึกน้อยกว่าแบบแรกทำให้เหมาะกับห้องที่มีพื้นที่ใต้ฝ้าไม่มาก เช่น 5-15 cm.

2. อ่านที่ข้างโคมจะมีรหัสบอกชนิดของขั้วหลอดที่ใช้ได้

มีรหัสขั้วและหลอดนั้นมีมากมายจนรู้จักไม่หมดแต่ที่เราใช้ติดตกแต่งในบ้านพักอาศัยมีดังนี้*ถ้าเจอเลข E27 คือขั้วเกลียว คู่กับ หลอดไส้ หลอดปิงปอง (GLS) หลอดไส้ทรงกรวย(PAR) หลอดตะเกียบ หรือ หลอด COMPACT FLUORESCENT (TC-DSE) และ หลอดไฟ LED Bulb*ถ้าเจอเลข GU4 คู่กับ หลอดฮาโลเจน ( MR11)*ถ้าเจอเลข G23 คู่กับ หลอดแบบตะเกียบแบบขั้วเขี้ยวไม่มีบัลลาสในตัว (TC)*ถ้าพบเลขลักษณะ 2x20w e27 ก็หมายถึง ใช้หลอด ขั้ว e27 2 ดวง เป็นต้น*สุดท้าย โคมดาวน์ไลท์ LED สมัยใหม่ จะเริ่มใช้หลอด LED มากขึ้น บางรุ่นจะเป็นรุ่นที่จำหน่ายพร้อมไฟ LED ในโคมมาเลย ซึ่งมีความคุ้มค่า และไม่ต้องเปลี่ยนหลอดตลอดอายุการใช้งาน

3.ดูขนาดดวงโคม

ขนาดความสูงดวงโคม ต้องดูให้มีขนาดพอดีติดตั้งใต้ฝ้าเพดาน และอย่าลืมว่าต้องมีช่องว่างใต้ฝ้าสำหรับระบายความร้อนอย่างน้อย 5 ซม. ขึ้นไป* ดูขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางภายในโคมให้ไม่เล็กกว้างขนาดหลอด

4. ผิวสะท้อนภายในโคม

โดยหลักๆแล้วมีให้เลือก 3 แบบซึ่งจะให้ลักษณะแสงที่ต่างกันไปถ้าเห็นคำว่า Clear Anodized จะมีพื้นผิวเรียบมันวาว จึงแสงที่สว่างเต็มที่ถ้าเห็นคำว่า Beehive Facet เป็นพื้นผิวมันแต่มีเหลี่ยมมุมเพื่อหักเหแสงจึงได้แสงที่จ้ามาก และเป็นประกายเหมาะกับการส่องของในร้านค้าถ้าพบคำว่า Sand Blast & Line Facet พื้นผิวเป็นเหลี่ยมมุมหักเหแสง และมีพื้นผิวพ่นทรายด้วยจึงได้แสงที่เป็นประกายที่นุ่มนวลทำให้ไม่รู้สึกแยงตา

5.รัศมีส่องสว่างให้ดูที่ข้างกล่อง

แสงเป็นภาพกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่าง ความกว้างของรัศมีแสง กับ ความสูงของดวงโคม ซึ่งมีประโยชน์ในการกำหนดระยะห่างของดวงโคมเพื่อให้ได้ความสว่างที่เหมาะกับ การใช้งานสิ่งสำคัญที่ต้องดู คือ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของแสงที่ส่องลงพื้น เพื่อตัดสินใจกำหนดตำแหน่งและจำนวนหลอดไฟ*ตำแหน่งความสูงของดวงโคมจากพื้น ที่เหมาะสมกับการใช้งาน

TIPS IN ROOM*

การติดตั้งควรเผื่อระยะห่างกับพื้นใต้ฝ้าประมาณ 10-15 ซม. เพื่อการระบายความร้อนที่ดี ซึ่งจะช่วยยึดอายุการใช้งานของหลอด

*ระยะห่างที่ใช้ติดตั้งดวงโคมโดยทั่วไป (ใช้โคมขนาด 4” ในห้องสูง 2.50 เมตร เท่ากัน)

-ห้องนอน ที่ใช้ หลอดไส้ 80 W. เว้นระยะห่าง 1.50 เมตร
-ห้องทำงาน ที่ใช้ หลอดตะเกียบ(แสงขาว) 36 W. เว้นระยะห่าง 0.80 เมตร
-ห้องนั่งเล่น ที่ใช้ หลอดตะเกียบ(แสงเหลือง) 36 W. เว้นระยะห่าง 1.00 เมตร
*สำหรับห้องที่มีความชื้นสูง และมีโอกาสโดนน้ำบ่อย อย่างห้องน้ำควรเลือกใช้โคมไฟดาว์ไลท์แบบที่มีครอบกระจกปิดกันไฟฟ้าซ็อต

สอบถามข้อมูลกับพนักงงานของเราได้ที่หมายเลข 02-370-0555

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.